HINO NGV/CNG Engine

ระบบดูดก๊าซ ( Fumigation) แบบ Mixer ผันแปร ควบคุมการจ่ายก๊าซด้วย

คอมพิวเตอร์ ECU โดยอัตราการผสม จะผันแปรไปตามคุณถาพของก๊าซ

CNG บำรุ่งรักษาง่าย ไม่ต้องปรับจุนบ่อย และประหยัด

ถังบรรจุมาตรฐานขอก๊าซ cng

ถังที่ใช้บรรจุก๊าซธรรมชาติสำหรับรถ NGV โดยทั่วไปจะแบ่งออกได้ 4 ชนิดด้วยกัน คือ
ชนิดที่ 1 - ทำด้วยเหล็ก หรือ อลูมิเนียม
ชนิดที่ 2 - ทำด้วยเหล็ก หรือ อลูมิเนียม และหุ้มด้วยวัสดุใยแก้ว หรือ
เส้นใยคาร์บอนล้อมรอบตัวถัง
ชนิดที่ 3 - ทำด้วยแผ่นอลูมิเนียมที่บางกว่าชนิดที่ 2 และหุ้มด้วยวัสดุ
ใยแก้วหรือเส้นใยคาร์บอนตลอดตัวถัง

ชนิดที่ 4 - ทำด้วยแผ่นพลาสติกและหุ้มด้วยวัสดุใยแก้วและเส้นใยคาร์บอน
ผสมกัน

Bi-Fuel

เครื่องยนต์ที่ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ก๊าซธรรมชาติอัดหรือน้ำมันเบนซินอย่างใดอย่างหนึ่งได้
เครื่องยนต์ประเภทนี้จะมีสวิตช์ควบคุมสำหรับเลือกใช้เชื้อเพลิงอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ได้
ข้อดี
+เลือกใช้เชื้อเพลิงได้ทั้ง 2 ชนิด
+ประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่า 50 %
+สามารถใช้งานได้ขณะก๊าซธรรมชาติหมด
ข้อด้อย
-สมรรถนะเครื่องยนต์ลดลง
-ติดตั้งถังก๊าซน้อยต้องทำการเติมบ่อย
-ใช้ได้เฉพาะเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น

Diesel Dual Fuel (DDF)

เครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับน้ำมันดีเซล
ต้องทำการดัดแปลงเครื่องยนต์โดยการฝังหัวจ่ายก๊าซบริเวณท่อไอดีเพื่อให้ก๊าซผสมกับอากาศก่อนที่จะไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้
ข้อดี
+ค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงไม่สูงมาก
+ประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ประมาณ 20-30%
+สามารถใช้งานได้ขณะก๊าซธรรมชาติหมด
ข้อด้อย
-สมรรถนะเครื่องยนต์ลดลง
-ติดตั้งถังก๊าซน้อยต้องทำการเติมบ่อย
-ควันไอเสียยังคงมีสีดำอยู่

Dedicated CNG Engine

เครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว
แบ่งได้เป็น 2 แบบ
1.แบบดูดก๊าซ (Fumigation)
2.แบบหัวฉีดก๊าซ (Injection)

ข้อดี
+ประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างเต็มที่
+มลพิษน้อย หมดปัญหาเรื่องควันดำ
+เสียงของเครื่องยนต์เงียบขึ้น

ข้อด้อย
-ถังบรรจุก๊าซ น้ำหนักมาก

เครื่องยนต์ CNG และอุปกรณ์ส่วนควบ

ประเภทของเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง
1.Dedicated CNG Engine ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง
2.Diesel Dual Fuel ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดร่วมกับน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง
3.Bi-Fuel สามารถเลือกใช้ก๊าซธรรมชาติอัดหรือน้ำมันเบนซินอย่างใดอย่างหนึ่งได้

ก๊าซธรรมชาติอัด (CNG)

ก๊าซธรรมชาติ
พบมากในอ่าวไทย อยู่ในสถานะเป็นก๊าซ เมื่อจะนำมาใช้งานจะทำการอัดความดันที่ 200 บาร์ และกักเก็บไว้ในภาชนะทนความดันเพื่อนำไปใช้งาน
เนื่องจากก๊าซธรรมชาตินั้นมีน้ำหนักเบากว่าอากาศ (ประมาณ 0.5 – 0.8 เท่าของอากาศ) เมื่อเกิดการรั่วไหล จะฟุ้งกระจายไปในอากาศ ไม่สะสมบริเวณพื้นดิน ทำให้ยากแก่การติดไฟ (อุณหภูมิที่สามารถติดไฟได้เอง คือ 650 oC ) จึงมีความปลอดภัยสูง
คุณสมบัติทางกายภาพเบื้องต้นของก๊าซธรรมชาติ
(Natural Gas physical property)
1.ไม่มีสีไม่มีกลิ่น
2.เบากว่าอากาศ (ค่าความถ่วงจำเพาะ0.5 – 0.8)
3.ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้มีมลพิษต่ำ
* ก๊าซธรรมชาติมีก๊าซไข่เน่า (ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์) เจือปนอยู่  เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ถึงการรั่วซึม

คุณประโยชน์ของก๊าซธรรมชาติ

เป็นเชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่นำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์
ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
มีความปลอดภัยสูงในการใช้งาน เนื่องจากเบากว่าอากาศ จึงลอยขึ้นเมื่อเกิดการรั่ว
มีราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงปิโตรเลียมอื่นๆ เช่น
สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ก๊าซธรรมชาติส่วนใหญ่ ที่ใช้ในประเทศไทยผลิตได้เองจากแหล่งในประเทศ จึงช่วยลดการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงอื่นๆ และประหยัดเงินตราต่างประเทศได้มาก

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ

ก๊าซธรรมชาติ เป็นพลังงานปิโตรเลียมชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับน้ำมัน
ก๊าซธรรมชาติเกิดขึ้นจากการทับถมซากพืชซากสัตว์ มานานหลายแสนหลายล้านปี ซึ่งมีองค์ประกอบของสารไฮโดรคาร์บอนเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อนำไฮโดรคาร์บอนมาเผา จะให้พลังงานความร้อนสูง

กฎหมายและมาตราฐานที่เกี่ยวข้องกับรถ NGV

กรมการขนส่งทางบก

1. รถ NGV ที่ขออนุมัติแบบรุ่นรถ ต้องผ่านการติดตั้งจาก ผู้ติดตั้งที่ผ่านการอนุมัติ
จากกรมขนส่งฯ
2. รถที่ติดตั้งระบบ CNG เสร็จ ต้องผ่านการตรวจสภาพรถ จากผู้ตรวจที่ผ่านการ
อนุมัติจากกรมขนส่งฯ และนำใบรับรอง มาแนบการจดทะเบียน
3. รายละเอียดของอุปกรณ์ส่วนควบระบบ CNG ต้องผ่านเกณฑ์ที่กรมการขนส่งฯ
กำหนด (มอก. , ISO , ECE , ANSI/CSA NGV 2 , ASTM A 269)
4. รถ NGV นั้นต้องแสดงเครื่องหมายสัญลักษณ์ CNG ตามที่กรมขนส่งฯ กำหนด
5. กรมขนส่งฯ ยอมรับหนังสือ รับรองการตรวจสภาพรถ มีอายุให้ 3 ปี สำหรับผู้
ตรวจสอบ และทดสอบที่เป็นผู้ผลิตรถ
6. กรมขนส่งฯ ลดการจัดเก็บภาษีประจำปีลง 50 % สำหรับรถ NGV ล้วน
7. ศูนย์บริการ NGV ต้องได้รับการตรวจสอบ และออกใบอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก
8. ช่างที่ตรวจซ่อมรถ NGV ต้องได้รับการฝึกอบรม และรับประกาศนียบัตร จากหน่วยงานที่กรมขนส่งทางบกรับรอง